AI Marketing

AI Marketing การออกแบบ และ วางกลุยทธ์การตลาด


AI Marketing


AI Marketing การตลาด น่าจะเป็นหนึ่งใน เรื่องที่สามารถนำเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาใช้ได้เป็นอย่างดี เมื่อเทียบกับฟังก์ชันงานอื่น ๆ ในธุรกิจ หน้าที่หลักของการตลาด คือ การเข้าใจความต้องการของลูกค้า แล้วจับคู่กับสินค้าและบริการที่เหมาะสม รวมถึง โน้มน้าวให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ นี่เป็นความสามารถที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ สามารถเข้ามาเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี

ไม่น่าแปลกเลย ที่ McKinsey ในปี 2018 วิเคราะห์ โดยแสดงให้เห็นว่า การตลาดเป็นงานที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้ผลกระทบมากที่สุด โดยมีกรณีศึกษาต่างๆมากกว่า 400 กรณี

เดี๋ยวนี้ หัวหน้าทีมฝ่ายการตลาด ก็คอยมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆนี้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น การสำรวจของสมาคมการตลาดทางฝั่งอเมริกัน ในเดือนสิงหาคม ปี 2019 เผยว่า การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้งาน เพิ่มสูงขึ้นถึง 27% เทียบกับปีก่อนหน้า และ ครึ่งหนึ่งเป็นผู้ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI ในระดับกลุ่มผู้บุกเบิก และ มีการคาดการณ์ว่าจะมีการนำเทคโนโลยีนี้ มาใช้ในการตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่แล้ว การสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ หรือ การเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI มาช่วยในการตลาดนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับการทำการตลาดในปัจจุบัน

Ai marketing มีอะไรบ้าง

มีอะไร ดังๆ บ้าง ? เมื่อพูดถึงปัญญาประดิษฐ์ในการตลาด ( AI Marketing )

แชทบอทที่ใช้ในการสื่อสารกับลูกค้าเป้าหมาย การรักษาฐานลูกค้า และ การสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง การวิเคราะห์และกำหนดเส้นทางก่อนการตัดสินใจซื้อ และ อื่นๆอีกนับไม่ถ้วน

บางธุรกิจมีใช้ AI ในทุกขั้นตอนของ การเดินทางของลูกค้า (Customer Journey) เมื่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าอยู่ในช่วง "พิจารณา" และ กำลังค้นคว้าหาผลิตภัณฑ์อยู่ AI Marketing จะกำหนดเป้าหมายโฆษณาไปยังพวกเขา และ สามารถช่วยชี้นำ การค้นหาของพวกเขาได้

เราจะเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ กับ สินค้าจาก Lazada และ Shopee ซึ่งใช้ AI เพื่อระบุว่าลูกค้ารายใดมีแนวโน้มที่จะซื้อ และ ง่ายต่อโน้มน้าวใจได้มากที่สุด จากนั้นก็เลือกนำเสนอสินค้าที่จะแสดงตามประวัติการค้นหาของพวกเขา

AI สามารถช่วยนักการตลาดเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ โดยการเพิ่มการมีส่วนร่วมในการค้นหา กระตุ้นให้พวกเขาไปในทิศทางที่ต้องการ (เช่น พาไปยังหน้าเว็บที่ออกแบบมาเฉพาะแต่ละบุคคล) และ ที่หนักสุด คือ ลาก “ว่าที่ลูกค้า” ไปเชื่อมต่อกับมนุษย์ เช่น คอลเซ็นเตอร์ ตัวแทนขายทางแชท โทรศัพท์ วิดีโอ

AI Marketing สามารถปรับปรุงกระบวนการขายโดยใช้ข้อมูลที่มีรายละเอียดสูงแบบเฉพาะบุคคล รวมถึง บอกข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ได้แบบเรียลไทม์ เพื่อสร้างข้อเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีความเป็นส่วนตัวสูง


AI Marketing



AI Marketing ช่วยในการเพิ่มยอดขายและการขายอย่างต่อเนื่อง และ สามารถลดโอกาสที่ลูกค้าจะละทิ้งตะกร้าสินค้า ในระบบอีคอมเมิร์ซ ตัวอย่างเช่น ใน AI วิเคราะห์ทันทีหลังจากที่ลูกค้าใส่สินค้าลงในตะกร้ารถเข็น

AI Marketing สามารถจูงใจเพื่อช่วยปิดการขายได้ เช่น “ ซื้อแล้วเกินคุ้ม แน่นอน! ” ประโยคที่มีไอเดียสร้างสรรค์ มีความคิดริเริ่ม นี้ สามารถเพิ่มอัตราการซื้อ ได้ถึง 5 เท่า มากไปกว่านั้น การบริการหลังการขาย ในธุรกิจบริการที่เปิดใช้งาน AI สามารถพร้อมให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ตอบลูกค้า และ บางครั้ง ก็สามารถจัดการกับคำขอบริการต่างๆได้ดีกว่ามนุษย์ซะอีก

ปัญญาประดิษฐ์ในการตลาด สามารถจัดการกับคำถามง่ายๆ เช่น เวลาจัดส่ง หรือ กำหนดเวลาการนัดหมาย และ สามารถส่งต่อปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้นไปยังเจ้าหน้าที่เป็นมนุษย์ได้

ในบางกรณี AI Marketing ช่วยให้ พนักงานโดยวิเคราะห์น้ำเสียงของลูกค้า และ แนะนำวิธีการตอบที่เหมาะสมได้ สามารถช่วยฝึก เจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ ว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าควรเป็นอย่างไร



กรอบในการทำงานด้านการตลาดของปัญญาประดิษฐ์ AI Marketing Framework

สามารถแบ่งได้ ดังนี้

AI Marketing แบบทำงานอัตโนมัติ

แอปพลิเคชันเหล่านี้ ทำงานในรูปแบบงานที่มีโครงสร้างซ้ำๆ ซึ่งจะใช้ระดับสติปัญญาที่ค่อนข้างต่ำ พวกมันได้รับการออกแบบให้ปฏิบัติตามชุดคำสั่ง หรือ ดำเนินการตามลำดับอินพุตที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แต่ ไม่สามารถจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อนได้ เช่น คำขอของลูกค้าที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ระบบที่ส่งอีเมลต้อนรับไปยังลูกค้าใหม่แต่ละรายโดยอัตโนมัติ แชทบอทที่เรียบง่าย เช่น แชทบอทที่ใช้ใน Facebook Messenger,LINE และ โซเชียลมีเดียอื่นๆ

พวกมันสามารถให้ความช่วยเหลือลูกค้าแค่การโต้ตอบขั้นพื้นฐาน แต่พวกเขาไม่สามารถแยกแยะเจตนาของลูกค้าได้

ถ้าสามารถนำเสนอหรือตอบสนองขึ้นมาเองได้โดยสั่งสมการเรียนรู้จากการโต้ตอบเมื่อเวลาผ่านไป จะเรียกว่า Machine Learning อัลกอริทึมนี้ จะได้รับการฝึกฝนโดยใช้ข้อมูลจำนวนมากเพื่อทำการทำนายและตัดสินใจที่ค่อนข้างซับซ้อน โมเดลนี้ สามารถจดจำรูปภาพ ถอดรหัสข้อความ แบ่งกลุ่มลูกค้า และ คาดการณ์การตอบของลูกค้าด้วยความคิดริเริ่มได้ เช่น แนะนำโปรโมชั่น แมชชีนเลิร์นนิง Machine Learning (ML) เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ขับเคลื่อนการซื้อโฆษณาออนไลน์หรือการยิงแอด เครื่องมือแนะนำสินค้าในเว็บอีคอมเมิร์ซ และ โมเดลการขายในระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM)

เทคโนโลยีนี้และรูปแบบการเรียนรู้เชิงลึกที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดใน AI Marketing และกำลังจะกลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพทางการตลาดมากที่สุดในเร็วๆนี้

ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือ ควรรู้ว่า มันเป็นการทำงานแคบๆ หรือ จำเป็นต้องได้รับการเรียนรู้โดยใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาล

AI Marketing แบบสแตนด์อโลน

เป็น โปรแกรม AI เฉพาะทาง ที่มีขอบเขตชัดเจนโดยแยกตัวออกมาต่างหาก จากช่องทางหลัก เพื่อ เรียนรู้การซื้อหรือการรับข้อเสนอของบริษัท หรือ เรียนรู้การขายหรือการให้ข้อเสนอบริการ

พูดง่ายๆ ก็คือ ใช้ AI ทำงานพิเศษนอกเหนือจากงานทั่วไป

เช่น แอพฯ ค้นหาสี ที่สร้างโดย บริษัทขายสี โดยใช้ความสามารถในการประมวลผลภาษาธรรมชาติของ IBM Watson และ Tone Analyzer (ระบบตรวจจับอารมณ์ในข้อความ) แอปพลิเคชันนี้จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับ สี ในแบบของคุณ ซึ่งขึ้นอยู่กับอารมณ์ที่ผู้บริโภคต้องการในแต่ละพื้นที่ของตน ลูกค้าสามารถระบุสี 2 หรือ 3 สี สำหรับห้องที่ต้องการทาสี จากนั้น การแนะนำ การเลือก การผสม และ การขาย สี จริงๆ จะดำเนินการภายนอกแอพฯ โดยการเชื่อมต่อกับคำสั่งซื้อไปที่หน้าร้านได้ทันที



AI Marketing แบบผสมผสาน

แอปพลิเคชัน AI เหล่านี้จะฝังตัวอยู่ภายในระบบ นักการตลาดและพนักงานขายที่ใช้งาน จะมองเห็นได้ไม่ชัดเจนเหมือนกับแบบสแตนด์อโลน ตัวอย่างเช่น แมชชีนเลิร์นนิง ML ที่ทำการตัดสินใจในเสี้ยววินาทีเกี่ยวกับโฆษณาดิจิทัลที่จะนำเสนอแก่ผู้ใช้หรือลูกค้าภายในแพลตฟอร์มที่จะจัดแจงกระบวนการทั้งหมด

เช่น AI Marketing ที่ใช้แมชชีนเลิร์นนิ่งแบบผสมผสานของ Netflix เลือกวิดีโอและแนะนำแก่ผู้ชมแต่ละคน ในเมนูแนะนำที่ผู้ชมจะได้เห็นทันทีเมื่อพวกเขาเข้ามาใน Netflix

ระบบ CRM ปัจจุบันก็มีการเพิ่มความสามารถนี้ ในการใช้ Machine Learning เรียนรู้ผ่านระบบ Salesforce โดยมีความสามารถหลายอย่าง เช่น ระบบการให้คะแนนที่ใช้ AI ซึ่งจะจัดอันดับความต้องการซื้อ ของลูกค้า B2B โดยอัตโนมัติตามโอกาสในการซื้อ

เราเชื่อว่า นักการตลาด เห็นคุณค่า การใช้ Machine Learning ผสานเข้าด้วยกันกับ AI Marketing แล้ว


AI Marketing เปลี่ยนเกมการตลาดของคุณ ผ่าน บทสนทนากับ ChatGPT และ Prompts อื่นๆ ( Se-ed , Naiin )


ถ้าจะเริ่มต้นใช้งาน AI Marketing จริงๆ ควรพิจารณาอย่างไร ?

สำหรับบริษัทที่มีประสบการณ์ด้าน AI ไม่มากนัก วิธีที่ดีในการเริ่มต้น คือ การสร้าง หรือ ซื้อแอปพลิเคชัน เล็กๆที่ทำงานได้ตามกฎง่ายๆ

บริษัทหลายแห่งใช้แนวทางแบบ “ คลาน - เดิน - วิ่ง ” โดยเริ่มจากแอพฯ AI Marketing แบบสแตนด์อโลน ที่ไม่ต้องไปอยู่เกี่ยวกับลูกค้าโดยตรง เช่น แอพฯที่ใช้แนะนำ ตัวแทนที่เป็นมนุษย์ เพื่อให้คุยกับลูกค้า แต่เมื่อบริษัทเริ่มมีทักษะพื้นฐานด้าน AI รวมทั้ง มีข้อมูลลูกค้าและข้อมูลการตลาดมากพอแล้ว

ก็ค่อยเริ่มย้าย ไปทำ AI Marketing อัตโนมัติที่มี Machine Learning ได้ ตัวอย่างเช่น AI ในการช่วยการเลือกเสื้อผ้า ซึ่งช่วยให้สไตลิสต์จัดการกับความต้องการของลูกค้าโดยอ้างอิงตามสไตล์ความชอบส่วนบุคคล เนื่องจากแอปพลิเคชัน AI ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ Machine Learning ต้องการข้อมูลคุณภาพสูงจำนวนมหาศาล ดังนั้น กุญแจสำคัญ คือ การใช้ประโยชน์จากข้อมูลและปัจจัยที่ส่งผลต่อความต้องการของลูกค้า

เมื่อ หลายธุรกิจและอุตสาหกรรม ต่างมีความซับซ้อนมากขึ้นในการใช้ AI ทางการตลาด การตัดสินใจบางประเภทอาจเกิดขึ้นแบบอัตโนมัติโดยสมบูรณ์เลยก็เป็นได้ นั่นทำให้มนุษย์ไม่ต้องอยู่ในวงโคจรโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินใจซ้ำๆ ในแบบที่ต้องการความเร็วสูง หรือ การเสนอคำแนะนำให้กับบุคคล เช่น แนะนำข้อมูลบางอย่างที่เป็นส่วนบุคคลให้กับผู้บริโภค หรือ แม้กระทั่ง แนะนำกลยุทธ์ให้กับผู้บริหารฝ่ายการตลาด เช่น การตัดสินใจจะทำแคมเปญต่อหรือการอนุมัติโฆษณาทางทีวีราคาแพง

บริษัทต่างๆ ควรเปลี่ยนไปใช้การตัดสินใจที่เป็นอัตโนมัติด้วย AI Marketing มากขึ้น เท่าที่จะทำได้



ความท้าทายและความเสี่ยง ในการใช้ AI Marketing

แม้จะเป็นการใช้ AI Marketing ในงานที่เรียบง่ายที่สุด ก็สามารถเจอกับปัญหาได้ การทำ AI ที่ทำงานแบบสแตนด์อโลน แม้จะมีความซับซ้อนทางเทคนิคต่ำกว่า แต่ก็ยังกำหนดค่าได้ยากสำหรับงานที่มี กระบวนการทำงานแบบเฉพาะ การนำ AI ทุกประเภท เข้าสู่การทำงานจริงๆ จำเป็นต้องมีการผสานรวมระหว่างงานของมนุษย์และเครื่องจักรอย่างระมัดระวังเพื่อให้ AI ช่วยเพิ่มพูนทักษะของผู้คนและไม่ใช่สร้างปัญหา

ตัวอย่างเช่น ในขณะที่หลายองค์กรใช้ แชทบอท บริการลูกค้าอัตโนมัติ บอทที่มีความสามารถน้อยอาจสามารถสร้างความรำคาญให้กับลูกค้าได้ อาจเป็นการดีกว่าที่จะให้เจ้าหน้าที่หรือที่ปรึกษาที่เป็นมนุษย์ทำแทน

ยกตัวอย่าง ai กับการตลาดออนไลน์ หรือ การ ใช้ AI Marketing เรียนรู้เชิงลึกเพื่อวิเคราะห์ภาพเซลฟี่ที่ลูกค้าถ่าย ประเมินอายุและประเภทผิว และ แนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เมื่อรวมเข้ากับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ มันสามารถสร้างยอดขายได้อย่างยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม พอนำไปรวมเข้ากับ ร้านค้าปลีก เปอร์เซ็นต์ของยอดขายนั้นต่ำกว่าการมี ที่ปรึกษาผิวพรรณที่เป็นบุคคล นั่นหมายความว่า AI Marketing อาจเป็นอุปสรรคต่อแบรนด์ในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้าเมื่อมี AI ช่วย

ท้ายที่สุด ai กับธุรกิจ ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นอันดับแรก ยิ่งมี AI Marketing ที่ชาญฉลาดและงานที่ผสมผสานมากขึ้น ลูกค้าก็ยิ่งกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และ มีความรู้สึกเป็นเจ้าของข้อมูลมากขึ้นเท่านั้น

ลูกค้าอาจกังวลเกี่ยวกับการบันทึกและแชร์ข้อมูลโดยที่พวกเขาไม่รู้ หรือ ลำโพงอัจฉริยะที่อาจแอบดักฟังพวกเขาอยู่ตลอดเวลา

AI Marketing คือ

การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อวางแผนและดำเนินกิจกรรมทางการตลาด เพื่อช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


โดยทั่วไปแล้ว ผู้บริโภคมีความเต็มใจ (แม้กระทั่ง กระตือรือร้น) ที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวและความเป็นส่วนตัวบางส่วนเพื่อแลกกับคุณค่าที่ นวัตกรรม สามารถมอบให้ ดังนั้น กุญแจสำคัญสำหรับนักการตลาดเมื่อพวกเขาจำเป็นต้องพึ่งพา AI Marketing คือ ต้องแน่ใจว่า มีการดูแลเรื่องความเป็นส่วนตัวและเรื่องความปลอดภัยนั้น โปร่งใส เพื่อความไว้วางใจของลูกค้า

CMO จึงควรจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรมและความเป็นส่วนตัว PDPA โดยมีทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและกฎหมาย

ในขณะที่ AI มีความสำคัญในกิจกรรมทางการตลาด และ ความสามารถของมันก็เติบโตอย่างรวดเร็ว เราเชื่อว่า AI จะเปลี่ยนโฉมการตลาดในท้ายที่สุด แต่การเดินทางครั้งนี้ ต้องใช้เวลา เราจึงจำเป็นต้องให้ความสนใจแบบยาวๆไป ในการสร้างความสามารถของ AI ดังนั้น เราจึงอยากแนะนำให้ นักการตลาด เริ่มพัฒนากลยุทธ์ในวันนี้ เพื่อใช้ประโยชน์จากฟังก์ชันการทำงานในปัจจุบันของ AI Marketing และ เพื่ออนาคตที่มีแต่ความเป็นไปได้


AI Marketing